วิธีที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะของสีกับผนังบ้าน และยืดอายุการใช้งานของสีให้สวยสดอยู่ตลอดเวลาได้ นั่นก็คือการใช้สีรองพื้นทารองพื้นก่อนที่จะทาสีจริง หากไม่ได้ทาสีรองพื้นก่อน ปัญหาหลายอย่างที่จะเกิดกับผนังบ้านของเราจะตามมาทันที ไม่ว่าจะเป็นสีหลุดร่อน สีเป็นสะเก็ด สีซีด และการเกิดเชื้อราที่ผนังบ้าน การเลือกใช้สีรองพื้นที่มีคุณภาพสูงทาก่อนหนึ่งรอบ จึงเป็นตัวช่วยในการแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตามการใช้สีรองพื้นน ก็ต้องคำนึงด้วยว่าใช้กับพื้นผิวประเภทไหน เพราะสีรองพื้นที่ขายในท้องตลาดมีทั้งแบบสีรองพื้นที่ใช้กับปูนใหม่ กับ สีรองพื้นปูนเก่า TOA โดยคุณสมบัติของสีทั้งสองประเภทนี้จะแตกต่างกันบ้าง เราจะมาดูกันว่าแตกต่างกันอย่างไร ความแตกต่างของสีองพื้นปูนเก่า กับสีรองพื้นปูนใหม่ สีรองพื้นปูนใหม่ สีรองพื้นประเภทนี้จะใช้กับปูนที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ เช่น บ้านที่เพิ่งสร้างเสร็จ หรือส่วนที่มีการต่อเติมและฉาบปูนใหม่ จะใช้สีรองพื้นสำหรับปูนใหม่เท่านั้นในการทารองพื้น เหตุผลที่ต้องทาสีรองพื้นกับปูนใหม่ก็เป็นเพราะว่า หลังจากที่ฉาบเสร็จ ผนังจะเกิดคราบด่างเกิดขึ้น และปูนที่เพิ่งฉาบเสร็จก็มักจะคายความชื้นออกมาด้วย หากไม่ได้ทาสีรองพื้นก่อน สีที่ทาไปจะมีปัญหาทันที ดังนั้นจึงจะเป็นต้องทาสีรองพื้นหนึ่งรอบก่อน เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดรอยด่างเหล่านั้น และยังช่วยเพิ่มการยึดเกาะของสีให้แข็งแรงกว่าเดิม ระหว่างผนังที่สร้างเสร็จใหม่ กับสีทาหน้าที่เป็นสีจริง สีรองพื้นปูนเก่า เป็นการทาสีกับผนังที่เคยผ่านการใช้งานหรือว่าเคยทาสีมาก่อนแล้ว เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ และป้องกันปัญหาต่างๆ ที่เคยเกิดมาก่อนหน้านี้ เช่น การเกิดเชื้อรา เกิดรอยแต่กของสี แต่ก่อนที่จะเริ่มทา สีรองพื้นปูนเก่า TOA ลงพื้นปูนเก่าได้ ต้องมีการทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อน ไม่สามารถทาลงไปยังพื้นปูนเก่าโดยตรงได้ เนื่องจากคราบสกปรกที่อยู่กับผนัง จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการยึดเกาะของสีด้วย ดังนั้นหากผนังมีรอยด่าง […]
Read More